โดยอิงจากระบบของมาเฟีย (ยากูซ่า) ผสมกับแก๊งค์สเตอร์ (แยงกี้) ทำให้กลุ่มมังกรมาศใช้ระบบแบบผสมที่วัดการกำลังและความน่านับถือในสนามศึก โดยที่ ‘กลุ่มใหญ่’ นั้นจะใช้ระบบของโบเรียวคุดันหลักๆ แต่ภายในโรงเรียนซึ่งอยู่ในอำนาจของกลุ่มแบบริวคินกักโคนั้นจะแบ่งออกไปเป็นกลุ่มอำนาจการดูแลตามกำลังและพรรคพวก (อ้างอิงจาก Crows Zero) โดยที่เวลาจะได้อำนาจจะมาจากการชกต่อยประลองฝีมือกันระหว่างฝ่ายทัพใดทัพหนึ่ง ในหนึ่งห้องจะมีพวกผู้นำ 1 คน และในชั้นปี 1 - 3 ก็จะมีผู้นำของแต่ล่ะชั้นปี การจะเป็นใหญ่ได้ในโรงเรียนคือการต้องประลองฝีมือชกต่อยกับทุกฝ่ายทัพ (สามารถก่อตั้งขึ้นเองได้) และขึ้นไปเป็นคนที่มีจำนวนสนามศึกการชกต่อยมากที่สุดในเขตโรงเรียน และเวลาที่มีทัพใหม่เกิดขึ้น หรือมีการเปลี่ยนแปลงระดับอำนาจของทัพใดทัพหนึ่ง จำเป็นจะต้องแจ้งไปยังตัว ‘ลูกพี่หญิง’ ของกลุ่มย่อยในโรงเรียนอีกด้วย โดยที่ในโรงเรียนนั้นมีกฎรู้กันว่าห้ามมีเรื่องชกต่อยกันเองจนถึงตาย หรือทำร้ายนักเรียนทั่วไปจนบาดเจ็บสาหัสแบบไม่มีเหตุผลกำกับ

โดยที่เมื่อจบปีการศึกษา ปี 3 ส่วนมากเหล่า ‘จุนโคเซย์อิน’ จะเลื่อนขึ้นเป็นพวก ‘ชาเทย์’ ของกลุ่มหลัก และบรรจุเป็นสมาชิกกลุ่มริวคินโออย่างเป็นทางการ (ทั้งนี้ทั้งนั้นหากเป็นพวกลูกหลานตระกูลที่เป็นกลุ่มย่อยลำดับที่ 1 ของกลุ่มใหญ่คิวริวโอ อาจจะมีการประจำการเป็น ‘ชาเทย์’ อยู่แล้ว)

ซึ่งเป็นที่แปลกใจจากหลายๆฝ่าย ที่ตอนนี้ริวคินกักโอยู่ใต้ผู้นำเดียวกันคือลูกพี่หญิง ‘โอโรจิ ซากุระ’ ลูกสาวคนเดียวของพ่อใหญ่แห่งกลุ่มริวคินโอ ซึ่งจะขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไปรุ่นที่ 16  โดยที่ก่อนหน้านี้นั้นโรงเรียนริวคินกักโคมีท่าทีจะถูกกุมอำนาจโดย ‘เคียวคุริว โอนิมาสะ’ หากแต่โดนอาเน่กิซากุระปราบปรามจนปัจจุบันดำรงค์ตำแหน่งมือขวาของเธอ จึงทำให้ตอนนี้โครงสร้างของกลุ่มย่อยในโรงเรียนริวคินกักโคมีดังต่อไปนี้